@T Boutique Hotel https://attboutiquehotel.com โรงแรมแอทที บูทีค Tue, 10 Nov 2020 07:44:14 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.3.3 https://attboutiquehotel.com/wp-content/uploads/2020/11/cropped-log-fac-32x32.jpg @T Boutique Hotel https://attboutiquehotel.com 32 32 Bangsaphannoi https://attboutiquehotel.com/b1/ https://attboutiquehotel.com/b1/#respond Thu, 05 Nov 2020 09:23:56 +0000 https://attboutiquehotel.com/?p=1175

ที่เที่ยว บางสะพานน้อย

เกาะทะลุ

สถานที่ท่องเที่ยวดำน้ำชมปะการังสุดฮิต ในราคาเพียง 400บาท/คน ราคารวมอุปกรณ์ดำน้ำ และอาหารมื้อกลางวัน นั่งเรือออกจากท่าเรือเกาะทะลุเพียง 30 นาทีเท่านั้น เกาะทะลุ จะมีลักษณะเด่นๆ คือรูทะลุด้านหัวเกาะที่ดูแปลกตา ที่ต้องมาถ่ายภาพ โดยเรือทุกลำจะพามาจุดนี้ก่อนดำน้ำ ช่วงหน้าร้อนเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดเพราะน้ำจะใส มีสีฟ้าครามสวยงาม ส่วนใต้น้ำนั้นเราจะได้พบเห็น ปะการังหลากหลายชนิด มีสีสันที่สวยงาม มีปลาสีสันสวยงามหลากหลายชนิด โอกาศดี อาจได้เจอฉลามวาฬอีกด้วย สามารถขึ้นเรือ ซื้อตั๋วดำน้ำได้ที่ท่าเรือเกาะทะลุ มีเรือบริการนำเที่ยวให้เลือกหลายเลย

หาดฝั่งแดง หรือ หาดผาแดง

เป็นชายหาดที่โดดเด่นมีความแปลกตา ด้วยหาดทรายที่มีสีแดง และหน้าผาสีแดง สูงกว่า 10-15 เมตร ทำให้ดูสะดุดตา หากมองมาจากเกาะทะลุแล้ว จะเห็นเป็นหน้าผาสีแดงยาวที่สวยงามตลอดแนว กว่า 5 กิโลเมตร หน้าผามีลักษณะเป็นดินลูกรังแดง เกิดการกัดเซาะของคลื่นและลมทะเลธรรมชาติเป็นระยะเวลานานหลายปี  จนทำให้เกิดหน้าผาของชายหาดและลวดลายสวยงามแห่งนี้ขึ้น บริเวณหาดแห่งนี้ไม่ค่อยนิยมเล่นน้ำเพราะเป็นแอ่งกระทะอาจเกิดอันตรายได้ จึงเป็นที่นิยมแค่มานั่งพักผ่อนชิลๆ เดินเล่น ถ่ายรูปกลับกันมากกว่า

หาดสน

หาดที่เงียบสงบ แถวๆ ท่าเรือเกาะทะลุ มีสะพานปลาเก่าที่เลิกใช้งานเป็นจุดเด่น รวมถึงเก้าอี้และร่มชายหาดปักอยู่ริมหาด มีทิวสนร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อนมากๆ มองไปทางทิศ ตะวันออกจะสามารถมองเห็นเกาะทะลุได้อย่างชัดเจนอยู่ไม่ไกล อีกทั้งยังมีที่พัก รีสอร์ทและร้านอาหารให้บริการอยู่หลายแห่ง ใครมาขึ้นเรือดำน้ำเกาะทะลุอย่าลืมแวะเช็คอินกันด้วยน๊า

หาดแหลมสน

อีกหาดที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่ก็ไม่ค่อยมีผู้คนมามากนัก เป็นชายหาดเงียบๆ สามารถกางเต็นท์ ตั้งแคมป์ปิ้งได้ มีจุดบริการนักท่องเที่ยว หาดนี้เหมาะแก่การตื่นขึ้นมาชมดวงอาทิตย์ขึ้นอีกหาดนึง มองเห็น เกาะทะลุ เกาะสิงห์ และเกาะสังข์ อยู่ไกลๆ

สะพานปลาบางเบิด

เป็นอีกพิกัด อยู่ห่างจากตัว บางสะพานน้อยไปประมาณ 30 กม. มีสะพานปลาเก่าตั้งอยู่กลางอ่าวนี้ในช่วงหน้าร้อน ชายหาดที่ทีน้ำใส วิวสวยอีกหาด ไม่ค่อยมีผู้คนมากมากนักนอกจากคนในพื้นที่ ส่วนใหญ่จะแค่เพียงแวะมาถ่ายรูป เช็คอินกันเท่านั้น

ลานหิน วัดบางเบิด

อยู่ถัดมาไม่ไกลจากสะพานปลา อ่าวบางเบิดฝั่งเหนือ จุดนี้จะมีลานหินทั้งก้อนเล็กก้อนใหญ่ ปะปนตามชายหาด จะเห็นได้ชัดในช่วงน้ำลง หรือ ฤดูร้อนนั่นเอง เป็นไฮไลท์ของจุดนี้เลย สามารถมองเห็น แนวหน้าผา ของหาดฝั่งแดงอีกด้วย

กิจกรรมตกหมึก

มาเที่ยวบางสะพานน้อย ไม่ได้มีแค่การนั่งเรืออออกไปดำน้ำที่เกาะทะลุเท่านั้น อีกหนึ่งกิจกรรมของบางสะพานน้อย คือการเหมาเรือออกไปตกหมึก ในช่วงยามเย็นหรือช่วงหัวค่ำ เป็นกิจกรรมที่สนุกมากๆ ตกหมึกได้ ก็ปิ้งย่างกันบนเรือ หรือจะจิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ดกันสดๆก็ได้ รับรองว่าหมึกสดและหวานเจี๊ยบ ใครที่อยากลองตกหมึกสักครั้งหรือสนใจไปทำกิจกรรมสนุกๆ กับเพื่อนๆ หรือครอบครัวก้สามารถไปขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือเกาะทะลุเลย ค่าเรือก็แล้วแต่ขนาดเรือ จำนวนคน ราคาเหมาลำก็จะประมาณ 5000-8000 บาท

Credit : https://prachuaptravel.com/travel-bangsaphannoi/

]]>
https://attboutiquehotel.com/b1/feed/ 0
Bangsaphan https://attboutiquehotel.com/b2/ https://attboutiquehotel.com/b2/#respond Thu, 05 Nov 2020 09:10:45 +0000 https://attboutiquehotel.com/?p=1150

ที่เที่ยว บางสะพาน

“หาดบ้านกรูด”

ชายหาดที่ติดอันดับต้นๆ ของบางสะพาน สามารถมาพักผ่อนได้ทุกฤดู เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากเป็นชายหาดที่เงียบสงบ มีน้ำทะเลที่สวยใสสุดๆ ในช่วงหน้าร้อน ชายหาดสะอาด ไม่เป็นแอ่งกระทะ เหมาะแก่การพักผ่อน และลงเล่นน้ำ มีชายหาดยาวกว่า 7 กิโลเมตร ในส่วนของหาดด้านเหนือจะมองเห็น พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ วัดทางสาย สูงเด่นอยู่เหนือยอดเขาธงชัย มีร้านอาหารติดหาด และที่พักให้เลือกมากมาย แนะนำให้เช่าจักรยาน คันล่ะ 50 บาท ปั่นเล่นกินลมชมวิวริมทะเล สัมผัสบรรยากาศ หาดบ้านกรูดอย่างแท้จริง

“อ่าวบ่อทองหลาง”

อ่าวเล็กๆ มีลักษณะโค้ง เกือบครึ่งวงกลมกว่า 500 เมตร หาดมีความงดงาม หาดทรายขาวนวลจนได้รับฉายา “ไข่มุกแห่งบางสะพาน” เป็นที่นิยมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เอง โดยอ่าวมีโขดหินเด่นอยู่กลางอ่าว  เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ ทั้งเด็กแหละผู้ใหญ่ ช่วงที่สวยที่สุดคือ ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนพฤษภาคม น้ำจะใสสวยที่สุด
เป็นสถานที่พักผ่อน chill chill ที่ไม่ควรพลาดในการมาเที่ยวบางสะพานเลย อ่าวบ่อทองทองหลาง มีร้านอาหารให้บริการ รอบๆ อ่าว อาหารทะเลสด ราคาถูกและอร่อยถูกปากทุกเพศทุกวัย ในวันหยุดพักผ่อนใครจะมาปูเสื่อนั่งชิลๆ กับครอบครัวก็ไม่มีปัญหา ส่วนด้านหลังอ่าวบ่อทองหลังนั้น ยังมีทะเลแหวกฝั่ง อ่าวคอกควาย ในช่วงหน้าร้อนของทุกๆ ปี สามารถเดินลัดเลาะไปตามชายหาดด้านหลังวัด ไปประมาณ 200 เมตร

“พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ”

บางสะพาน ยังมี “วัดทางสาย” วัดสวยที่ติดอันดับของประเทศไทยด้วยนะ จุดเด่นก็คือ “พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ” แห่งนี้แหละ สง่างามเหนือยอดเขาธงชัย ดั่งวิมานที่ลอยอยู่ในสรวงสวรรรค์ เป็นที่ประทับใจแก่ชาวบางสะพานและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก พระมหาธาตุเจดีย์เป็นสถาปัตยกรรมรัตนโกสินทร์ เป็นเจดีย์ทรงลังกา มีเจดีย์จำนวน 9ยอด กว้าง 50 เมตร สูง 50เมตร ยาว 50เมตร มีเจดีย์ประธานองค์ใหญ่ เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุวางในบุษบก ซึ่งอยู่ภายใต้โดม โดยมีเจดีย์รายล้อมอยู่ 4 ทิศ 8 องค์ ซึ่งเจดีย์ทั้ง 8 องค์
ชั้น4ของอุโบสถ ประดิษฐานพระประธานปรางค์ลีลา ออกแบบโดย ม.ร.ว.มิตรารุณ เกษมศรี สถาปนิกประจำราชสำนัก และศิลปินแห่งชาติ สร้างถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชฯ (รัชกาลที่9) ครองราชปีที่ 50  อีกทั้งพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศแห่งนี้ ยังเป็นต้นแบบของพระเมรุมาศ ในพระราชพิธีของ รัชกาลที่9 อีกด้วยพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ สถานที่อยากแนะนำให้มาสักครั้งในชีวิต เพราะภายนอกและภายในของ พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศแห่งนี้ สวยงามแตกต่างกันออกไป ด้านบนนี้ยังสามารถมองเห็นวิวรอบๆ ของหาดบ้านกรูดทางด้านเหนือ และหาดทางใต้อีกด้วย พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ นั้นยังมีความงดงามของกระจกเขียนสี โดยใช้แสงจากธรรมชาติเปิดเผยคงามความลวดลายของกระจกนั้น รวมถึงภาพจิตรกรรมฝาผนังเขียนมือ เช่น ภาพพระพุทธเจ้าเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ที่อยู่ด้านหลังขององค์พระประธาน ฯลฯ

“พระพุทธกิติสิริชัย”

หรือ “หลวงพ่อใหญ่” ตั้งอยู่ที่วัดทางสาย จุดเดียวกับ พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นถวายสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เป็นพระประธานองค์ใหญ่ รูปแบบแบบคันธาระ(ปางตรัสรู้) ลักษณะนั่งขัดสมาธิบนดอกบัวหน้าตักกว้าง 5 วา เปรียบได้กับขันธ์ทั้ง 5 มีความสูง 9 วา เปรียบได้กับนวโลกุตตรธรรม 9 มีฐานกว้างโดยรอบ 16 วา เปรียบได้กับโสฬสญาณ มีศาลาพัก 3 หลังหมายถึง ศีล สมาธิ ปัญญา ทางเดินขึ้น 2 ข้าง เปรียบได้กับสมถะและวิปัสสนา ถ้าใครมาสักการะช่วงเย็น สามารถรอชมดวงอาทิตย์ตก และวิวหาดบ้านกรูดบริเวณ พระพุทธกิติสิริชัย มาวัดทางสายวัดเดียวแต่คุ้มมาก ได้ชมความงดความทั้ง พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ และได้สักการะ พระพุทธกิติสิริชัย อีกด้วย

“น้ำตกไทรคู่”

ตั้งอยู่ที่ ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
เป็นน้ำตกที่ได้รับความนิยมของบางสะพาน น้ำตกจากหน้าผาสูงกว่า 15 เมตร และลดหลั่นลงมาเรื่อยๆ น้ำตกไทรคู่ที่มีน้ำตลอดทั้งปี สามารถลงเล่นน้ำได้ น้ำตกเยอะสุดช่วงหน้าฝน ให้มาช่วงปลายฝนต้นหนาว – หน้าร้อนจะดีกว่า เพราะน้ำใส และไม่มีฝนตกเหมาะแก่การพักผ่อนมากกว่า  น้ำตกไทรคู่ อยู่ห่างจากตัวอำเภอบางสะพาน ประมาณ 25 กม. ทางเข้าอยู่ฝั่งถนนเพชรเกษมขาขึ้นกทม. แยกเข้าไปน้ำตกประมาณ 10 กม. ช่วง1 กม.สุดท้ายเป็นถนนลูกรัง ถึงลานจอดรถ
เดินลงไปน้ำตกประมาณ 200 เมตรใช้เวลา 5 นาที ก็ถึงแล้ว ถือว่าการเดินทางสะดวกมากๆ ช่วงหน้าฝนนี้ บริเวณรอบๆน้ำตก ยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ขนาดเล็ก  พันธ์ุไม้สวยๆ เห็ดชนิดต่าง ผุดขึ้นมาเยอะมาก มีความสวยงามแตกต่างกัน …

“ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์คลองปากปิด”

สถานที่ท่องเที่ยวชุมชน เพิ่งเปิดให้ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการประมาณ 2 ปี เปิดมาได้ไม่นานก็ปังสุดๆ นับว่ากระแสตอบรับดีมากๆ ทำให้ผู้คนอยากมาลองเที่ยวชมธรรมชาติ เที่ยวไปได้ความรู้ไป พายเรือคายัค ชมธรรมชาติ ระบบนิเวศน์ชายฝั่ง สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ของบางสะพาน การพายเรือคายัคมีค่าบริการ 50 บาทต่อคน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ระยะทางไปกลับ ประมาณ 2 กิโลเมตร แนะนำให้พายเรือช่วงเช้าไปชมดวงอาทิตย์ขึ้นที่ชายหาดปากปิด หรือ ช่วง 4 โมงเย็น จะไม่ร้อนมากนัก ต้องขอบอกเลยว่า จุดเช็คอินแห่งนี้ชิวมาก ๆ หากได้ลองมาสัมผัสความ Local ของบางสะพาน และในทุกๆวันเสาร์ ยังมีตลาดชุมชนเล็กๆ บริเวณท่าเรือ คลองปากปิด ของกินพื้นๆ ตามประสาคนท้องถิ่น ที่ต้องไม่ควรพลาด

“ร่อนทอง บางสะพาน”

มาเที่ยวบางสะพานแล้วนั้น ไม่ได้มาร่อนทองหาทองคำนพคุณ สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนนี้ก็จะดูเหมือนทริปนี้จะขาดอะไรไป เพราะบางสะพานยังมีวิถีชีวิตอีกอย่างที่อยู่คู่บางสะพานมานับร้อยปี นั้นคือการร่อนทอง
ทองนพคุณ เป็นทองคำแท้ๆ ทองบางสะพานที่ดีที่สุดระดับประเทศอีกแห่ง เป็นของดี ของหายาก แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป สำหรับคนที่อยากลองมาได้เลย ทางชุมชนมีเลียงร่อนทองให้เช่า 80 -100 บาท ใครร่อนทองได้ก็เอาไปเลย อยู่ที่ดวงของแต่ละคน ส่วนใหญ่ได้ติดไม้ติดมือไปเป็นของฝากประจำทริปแน่นอนไม่มากก็น้อย

“หาดแม่รำพึง”

อยู่ห่างออกไปจากตลาดบางสะพาน ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่มีความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร มีเขาแม่รำพึงเป็นจุดเด่น อยู่ทางด้านตะวันออกของหาด ชายหาดเป็นทรายโคลน ผู้คนท้องถิ่นนิยมมาพักผ่อน แต่ไม่นิยมแก่การเล่นน้ำมากนัก ช่วงยามเย็นนั้น การที่มาบางสะพาน แล้วได้มายืนชมดวงอาทิตย์ตกและวิวรอบๆ จากด้านบนสะพานแม่รำพึง นับวาเป็นช่วงเวลาที่พิเศษมากๆ ช่วงหน้าหนาว และ หน้าร้อน เราจะได้เห็นดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่งดงามมากๆในช่วงฤดูร้อน ในบางช่วงน้ำทะเลอาจมีความสวยงาม สดใสบ้าง แต่ไม่เสมอไป ไม่ควรคาดหวังกับน้ำทะเลแห่งนี้หากใครได้มาเยือน บางสะพาน แล้ว ไม่ได้มายืนชมวิวยามเย็น จากบนสะพานแห่งนี้แล้ว เราว่าเหมือนมันขาดอะไรบางอย่างไปในทริปบางสะพานของคุณแน่นอน

“ถ้ำเขาม้าร้อง”

ลักษณะภายในถ้ำเขาม้าร้อง มีหลายคูหา หลายห้องโถง มีหินงอกหินย้อย หินรูปทรงลวดลายต่างๆ สวยงามแตกต่างกันออกไปภายในถ้ำจะมีพระพุทธรูปปางสมาธิ หน้าตักกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร เรียงรายตลอดแนวอยู่ชิดผนังถ้ำ นับร้อยองค์ โถงใหญ่ซ้ายมือสุดมีพระนอน ประมาณ 7 เมตร ภายในมีหินก้อนใหญ่ที่เกิดจากหินงอกหินย้อย ลักษณะคล้ายหัวม้าอยู่ภายในถ้ำ และที่พิเศษไปกว่านั้นหากเดินตรงเข้าไปในถ้ำแล้วเลี้ยวไปทางขวามือ ประมาณ 20-30 เมตร จะเจอบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ชื่อว่า ” บ่อน้ำทิพย์ ” เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่เชื่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ และเป็นบ่อน้ำที่ไม่เคยมีวันแห้งเหือดหาย แม้จะแห้งแล้งเพียงใด

“ถ้ำเขาตะล่อม”

ที่สุดอันซีนอีกหนึ่งแห่ง ใน อำเภอบางสะพานที่มีความงดงามสวย สดใหม่ แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก
เพราะยังไม่ได้ทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ ใครอยากเข้าชมถ้ำสวยๆ แห่งนี้ ก็เดินทางไปยังวัดเขาตะล่อม ได้เลย ติดต่อกับทางพระสงฆ์ที่วัดให้เปิดไฟภายในถ้ำมีไฟสว่างดี ช่วยค่าไฟหยอดตู้บริจาคนิดๆ หน่อยๆ เดินเข้าไปไม่ถึง 50 เมตร ก็ได้ชมความงามของถ้ำเขาตะล่อมแล้ว ….ภายในถ้ำแห่งนี้บอกเลยว่า สวยงามมากๆเลยจริงๆ มีหินงอกหินย้อย ผนังลวดลายหินและสีของผนังถ้ำ สวยงามแตกต่างกันออกไป อากาศภายในถ้ำเย็นเฉียบ มีลมพัดหวนเข้าออกตลอดเวลา เนื่องจากด้านบนมีปล่องที่สามารถทำให้อากาศถ่ายเทได้ มีค้างคาวเกาะตามผนังเยอะมากกกก และด้านในยังมีพระพุทธรูป ให้เราสักการะกันอีกด้วย

“อ่าวเทียน”

จุดเด่นๆ ของหาดนี่แปลกกว่าหาดอื่นๆ ในบางสะพาน ใกล้กับหาดแม่รำพึงและอ่าวบ่อทองหลาง หากมาแถวๆนี้เราว่าควรแวะเช็คอินกันสักหน่อย เพราะหาดแห่งนี้มีแต่หินสีดำหลายขนาดปะปนกันไปเยอะมาก ทำให้ดูสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ แต่ไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ เวลาเดินไปถ่ายรูปก็ควรระมัดระวังกันนิดนึง เพราะหินลื่นมาก สำหรับอ่าวนี้ ช่วงเช้ามาชมดวงอาทิตย์ขึ้นก็สวยงามใช่ย่อยเลยนะ หากพักใกล้ๆ แล้ว เราแนะนำให้มาจุดนี้เพื่อมาชมดวงอาทิตย์ขึ้น หรืออาจจะไปอ่าวบ่อทองหลางที่ถัดไปอีก 500 เมตร ถ่ายรูปไปอวดเพื่อนๆ ก็ถือว่าดีเลย

“บ้านอ่าวยาง”

อยู่ใกล้กับหาดแม่รำพึง ด้านในจะมีสวนสาธารณะ เป็นลักษณะแหลมยื่นออกไปในทะเล สามารถชมวิวดวงอาทิตย์ตก ลับขอบฟ้าได้อย่างชัดเจน ถ้าอยู่ ณ จุดนี้ เราจะได้เห็นเรือประมงขนาดต่างๆ กำลังแล่นออกไปนอกชายฝั่ง หรือเรือประมงบางลำก็กำลังกลับเข้าฝั่งมายังสะพานปลา ทำให้รู้สึกสัมผัสได้ถึงวิถีชีวิตชาวประมงอย่างสโลไลฟ์แต่ อ่าวยาง ไม่ได้มีจุดที่สวยงามแค่นั้น ระหว่างทาง ยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามในเวลายามเย็น ชวนให้หลงไหลบรรยากาศที่เงียบสงบของอ่าวนี้อย่างเต็มเปี่ยม

“Street Art บางสะพาน”

อยู่ที่ตลาดท่าเกวียน แหล่งเช็คอินจุดใหม่ อดีตเคยเป็นศูนย์การค้าอีกแห่งแล้วปิดตัวลง ชุมชนส่วนใหญ่เปลี่ยนจากตึกเป็นบ้านนกนางแอ่น แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนโฉม ให้น่าดึงดูดมากขึ้น ส่วนใหญ่ถ้ามาเดินพิกัด ตลาดท่าเกวียน จะมีอยู่ทั่วทุกมุมตึกให้เราถ่ายรูปไปเดินไปได้เหงื่อกันทีเดียว แต่บางสะพานไม่ได้มีสตรีทอาร์ตแค่ ตลาดท่าเกวียนแห่งเดียวนะ จุดอื่นก็มีเยอะมาก หาได้ตามซอก ตรอก ซอย แบบว่ามีผลงานอยู่ทั่ว บางสะพาน ไปทางไหนแถวไหนก็ได้พบเจอ สายพอตเทรตรับรองว่า มาเที่ยวบางสะพาน ถูกใจกลับไปแน่ๆ ผลงานทั้งหมดนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดย ทีม (TEMPORARYWEST) ได้นำศิลปะ streetart/graffitti เนรมิตรเปลี่ยนบางสะพาน
จากสภาพตึกเก่าๆคล้ายตึกร้าง ที่ถูกใช้เป็นแค่สถานที่เลี้ยงนกนางแอ่นซะส่วนใหญ่ ให้กลายเป็น ART TOWN หรือเมืองศิลปะ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่

“วัดเขาโบสถ์”

มาถึงบางสะพาน ถิ่นพระดี ปู่อินทร์ – ปู่ท้วม จะพลาดได้ไงที่จะเข้ามาเช็คอิน แวะไปสักการะพระเกจิดัง หลวงปู่อินทร์ หลวงปู่ท้วม กันหน่อย วัดเขาโบสถ์เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของบางสะพาน ที่อยู่กลางเมืองบางสะพานเลย ภายในวัดกว้างขวาง มีโบสถ์เป็นจุดเด่นอยู่บนยอดเขา และในทุกๆ ปีของต้นเดือนเมษายน จะมีงานปิดทองประจำปีอีกด้วย ด้านบนโบสถ์ สามารถชมดวงอาทิตย์ขึ้นและตกได้ทั้งสองฝั่ง เห็นวิวรอบๆตลาดบางสะพาน

“วัดถ้ำคีรีวงศ์”

อยู่ห่างไม่ไกลจาก หาดบ้านกรูด วัดถ้ำคีรีวงศ์เป็นแหล่งสะสมเกียรติคุณ บุญบารมีของหลวงปู่ม่วง ด้วยอภินิหารบุญบารมีของหลวงปู่ม่วง ครั้งหนึ่งในช่วงที่หลวงปู่ม่วงมีชีวิตอยู่ รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จมาพบหลวงปู่ม่วงที่วัดคีรีวงศ์ และได้จารึกพระปรมาภิไธยย่อ ไว้ในผนังถ้ำแห่งนี้ ภายในถ้ำยังมีพระนอน และพระพุทธรูปอีกหลายองค์ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำอีกด้วย จึงเป็นอีกวัดที่อยากจะแนะนำให้มา ภายในถ้ำมี 2 ห้องโถงใหญ่ มีพระพุทธรูปปางต่างๆหน้าตักประมาณ1เมตร ประมาณ 20 องค์  ผนังถ้ำมีลวดลายและสีสันที่แปลกตาสวยงาม อีกทั้งหลวงปู่ม่วง เป็นที่เคารพศรัทธา แก่ชาวบ้านกรูดเป็นอย่างมาก ตั้งแต่คนรุ่นก่อนจนถึงปัจจุบัน รวมถึงมีงานปิดทองประจำปีในช่วงต้นเดือน พฤษภาคม ของทุก ๆปีอีกด้วย

“น้ำตกขาอ่อน”

อยู่ห่างออกไปเกือบสุดอำเภอ ตั้งอยู่ใน ต.ชัยเกษม เดินทางจากถนนเพชรเกษมเข้าไปประมาณ 15 กม. ต่อด้วยถนนลูกรังอีก 2 กิโลเมตร จะถึงจุดจอดรถ จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าไป ทางเดินสะดวก น้ำตกขาอ่อน มีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ไปแค่ 7 ชั้น สวยงามต่างกันออกไป สภาพป่าที่น้ำตกถือว่ายังเป็นป่าดิบชื้น ที่อุดมสมบูรณ์มาก แต่ไม่ค่อยเป็นนิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากระยะทางเข้าที่ไกลและค่อนข้างเปลี่ยวพอสมควร และระยะทางเดินไปกลับรวมๆ กว่า 2 กิโลเมตร ทำให้มีนักท่องเที่ยวไปน้อย ถ้าไป น้อยกว่า 4 คนออกจะวังเวงมากๆ แต่ถ้าไปได้ก็โอดีนะ เป็นน้ำตกที่สวยอีกแห่งหนึ่งแต่แอบขาอ่อนนิดนึง

“หาดทรายขาว”

หรือ “หาดดอนสำราญ” เป็นชายหาดที่ทอดยาวกว่า 10 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นหน้าผากว่า 5 เมตร ก่อนลงไปถึงชายหาด ทรายบนชายหาดในช่วงหน้าร้อนมีลักษณะแห้ง ขาวนวลและละเอียดมากๆ ทำให้เวลาเราจับทราย หรือเดินบนผืนทรายทำให้เกิดเสียงตามจังหวะ สองข้างทางรับรองว่าหลายคนต้องชอบถนนเส้นนี่แน่ๆ เพราะถนนเส้นนี้มีทิวสนสูงสองข้างทางตลอดช่วงกว่า 4 กิโลเมตร เรียกมันว่าอุโมงค์ต้นส้น เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างหาดบ้านกรูดและอ่าวบ่อหลางได้ เป็นถนนที่น่าขับรถกินลมชมวิวและถ่ายรูปสุดๆ

“หาดสวนหลวง”

หาดที่เงียบสงบไม่มีคนพลุกพล่าน แบบชนิดที่ว่ามาปูเสื่อนอนหลับกลางวันกันได้เลย
ละแวกนี้จะมีชาวต่างชาติมาอาศัยอยู่มากเพราะหาดสงบ ไม่วุ่นวาย แถมเป็นหาดที่หันไปทางตะวันออก สามมารถมานั่งรอชมดวงอาทิตย์ขึ้นสวยๆ ได้อีกจุด ทะเลช่วงหน้าร้อน สวยใสไม่ต่างกับชายหาดอื่นๆในบางสะพาน หาดนี้ก็มีห้องพักมีรีสอร์ทให้บริการ 4-5แห่ง สำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนแบบเงียบๆ

“อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม”

อุทยานแห่งชาติน้องใหม่ ลำดับที่ 148 ของประเทศไทย ก่อนเดิมชื่อว่า วนอุทยานป่ากลางอ่าว เป็นสถานที่พักผ่อนดีเยี่ยมอีกแห่ง ร่มรื่นมาก ได้รับฉายาว่า ” ป่าในเมือง” เป็นผื่นป่าที่อายุเยอะมาก แถมมีต้นยางนา พะยอม พันลำและต้นตะเคียนเก่าแก่เยอะมากๆ รวมถึงสัตว์ป่านานา ชนิด ต้นไม้นานาพันธ์ด้วย
อุทยานตั้งอยู่ตรงสามแยกป่ากลางอ่าว มีร้านค้า สำนักงานอุทยานไว้ให้ข้อมูลและบริการนักท่องเที่ยวด้วย

Credit :  https://prachuaptravel.com/travel-bangsaphan/

]]>
https://attboutiquehotel.com/b2/feed/ 0
Tabsakae https://attboutiquehotel.com/tabsakae/ https://attboutiquehotel.com/tabsakae/#respond Thu, 05 Nov 2020 08:21:22 +0000 https://attboutiquehotel.com/?p=1124

ที่เที่ยว ทับสะแก

“สะพานไม้ทับสะแก”

เป็นสะพานไม้มะพร้าวและไม้สนยาวเกือบร้อยเมตร เป็นสะพานเก่าแก่อายุกว่า 50 ปีที่เคยใช้เป็นท่าเทียบเรือประมงของทับสะแก ปัจจุบันได้เลิกใช้งานไปแล้ว เนื่องจากสภาพไม้อายุเริ่มเยอะ ได้เปลี่ยนไปใช้สะพานคอนกรีตแทน ปัจจุบันได้ทำการซ่อมแซมไปบ้าง และยังคงเป็นที่ตกปลาของคนในพื้นที่ รวมถึงแลนด์มาร์คที่ต้องมาเช็คอินด้วย

“หาดวนกร”

หาดวนกร ตั้งอยู่ ในที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดวนกร เป็นชายหาดที่มีความร่มรื่นจากทิวสนที่มีอายุหลายปี มีความยาวหลายกิโลเมตร ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะมานั่งพักผ่อน ร่วมถึงกางเต็นท์ ตั้งแคมป์พักแรมที่หาดแห่งนี้ด้วย

“เกาะจาน-เกาะท้ายทรีย์”

อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดวนกร เช่นกัน สามารถนั่งเรือของอุทยานออกไปยังเกาะได้ โดยมีค่าใช้จ่ายเหมาลำ 4800 บาทไปได้ 8 ท่าน มีอุปกรณ์ดำน้ำและน้ำดื่มให้พร้อม นั่งเรือสปีทโบทออกจากอุทยานไป ประมาณ 15 นาที ก็ถึงเกาะแล้ว

“เกาะจาน-เกาะท้ายทรีย์”

การดำน้ำนั้นเจ้าหน้าที่จะพาเราไปทั้ง 2 จุดสองเกาะเลย ขอบอกเลยว่าใต้น้ำนั้น มีปะการัง และดอกไม้ทะเลเยอะมาก ๆ รวมถึงปลาสวยงามหลากหลายชนิด เราสามารถมองเห็นปะการังได้อย่างใกล้ชิดโดยไม่ต้องดำน้ำลงไปลงมาก มีความสวยงดงามสมบูรณ์มากจริงๆ เป็นอีกพิกัดดำน้ำตื้นที่อยากแนะนำให้ลองมา

“น้ำตกห้วยยาง”

เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของทับสะแก ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง
มีทั้งหมด 9 ชั้น มีน้ำไหลตลอดทั้งปี แต่สามารถเดินไปได้แค่ชั้นที่ 5 โดยมีน้ำตกไหลลงจากหน้าผาหินสูงกว่า15เมตร ภายในอุทยานมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นมาก มีห้องน้ำสะดวก มีร้านค้าสวัสดิการด้วย ภายในอุทยานสามารถกางเต็นท์พักแรมค้างคืนได้

“เขาหลวงประจวบ”

สำหรับคนที่ชอบการเดินป่า ตั้งแคมป์กลางป่า แนะนำที่นี่ เขาหลวงประจวบ สูงจากระดับน้ำทะเล 1250 เมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 5- 6 ชั่วโมง ระหว่างทางมีต้นไม้ใหญ่รวมถึงสัตว์ป่าขนาดเล็กมากมาย มีจุดชมวิวทั้งหมด 4 จุด ฝั่งไทย 2 จุด ชมวิวฝั่งพม่า 2 จุด อากาศด้านบน หนาวเย็นและชื้นตลอดทั้งปี หากใครสนใจติดต่อสอบถามทางอุทยาน เพื่อจองคิวล่วงหน้า เพราะมีค่าใช้จ่ายเจ้าหน้าที่นำทางไปยังจุดตั้งแคมป์

“เถาวัลย์ยักษ์”

บนยอดเขาหลวงยังมีจุดไฮไลต์ ที่ใครๆก็ต้องมาถ่ายภาพกับซุ้มเถาวัลย์ยักษ์ ประตูทะลุมิติของเขาหลวงประจวบ เป็นอีกจุดที่อันซีนสุดๆ ของจังหวัดประจวบฯ เลย

“ป่าสน บ้านเหมืองแร่”

สถานที่เที่ยวใหม่ล่าสุด เหมือนหลุดไปต่างประเทศ ด้วยถนนเส้นเล็กๆที่ตัดผ่านเข้าหมู่บ้าน
สองข้างทางร่มรื่นไปด้วยทิวต้นสนสูง ตลอดสองข้างทางกว่า 1 กิโลเมตร ถนนเส้นนี้ดูแปลกตา ถ่ายรูปออกมาสวยงาม ทำให้เป็นที่สะดุดตา และเป็นจุดเช็คอินที่ปังที่สุดของทับสะแกในตอนนี้

“เหมืองแร่แคนย่อน”

อยู่ถัดมาไม่ไกลจากถนนป่าสน ประมาณ 2 กม. เป็นมุมฮิปๆ เล็กๆ ของเนินทรายที่ถูกน้ำฝนกัดกร่อน กว่า 50 เมตร จนเป็นลวดลายของหน้าผาเนินดินทราย ที่แปลกตา ถือว่าเป็นอีกพิกัดที่กำลังฮิตในตอนนี้อีกแห่ง

“อ่างเก็บน้ำคลองช่องลม”

หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า “เขื่อนเขาล้าน” อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของทับสะแก มีวิวทิวทัศน์อ่างเก็บน้ำและภูเขาด้านหลังที่สวยงาม บรรยากาศดีทั้งยามเช้าและยามเย็น ในช่วงเย็นนั้นผู้คนจะมานั่งชิล ปิคนิก และออกกำลังกาย มานั่งชมวิวกันเยอะเลย

“น้ำตกเขาล้าน”

เดินทางเข้าไปยังที่ทำการ ประมาณ 12 กิโลเมตร ระยะทางสุดท้ายไม่เหมาะแก่ รถเก๋ง แนะนำเป็นกระบะ หรือรถสูงๆ ดีกว่า มอเตอร์ไซค์ไปได้ มีน้ำตกทั้งหมด 5 ชั้น เดินจากที่ทำการไปถึงชั้นที่ 5 เพียง 800 เมตร แต่ละชั้นมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป ชั้นที่ 5 นั้นจะเป็นม่านน้ำตกที่ตกจากหน้าผาประมาณ 10 เมตร ไม่แนะนำให้มาคนเดียวมันเปลี่ยวๆ นิดนึง

“หงส์ทองยักษ์”

ตั้งอยู่ที่วัดห้วยลึก ติดกับถนนเพชรเกษมขาขึ้นกรุงเทพ ฯ ก่อนจะถึงตัวอำเภอทับสะแกประมาณ 5 กิโลเมตร หงส์ทอง เป็นจุดเด่นของทับสะแกหากขับรถขึ้นเหนือล่องใต้แล้วนั้น ถ้าได้เห็นหงส์ตัวนี้แสดงว่ามาถึงทับสะแก และยังมีความเชื่อตำนานเล่าขานกันต่าง ๆ นานาของคนในพื้นที่เกี่ยวกับหงส์ตัวนี้อีกด้วย

“หาดห้วยยาง”

เป็นชายหาดที่เงียบสงบอีกหาด ชายหาดสวย น้ำทะเลใส ในช่วงฤดูร้อน ชายหาดมีทางเข้าหลายทางจุดเด่นๆ ก็สะพานปลาห้วยยาง หาดแห่งนี้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวให้วุ่นวายตามากมายนัก ถ้าจะมีส่วนใหญ่คงเป็น คนให้พื้นที่และชาวต่างชาติที่ชอบความเรียบง่ายมากกว่า ที่พักโรงแรมต่างๆ ก็มีให้เลือกหลายแห่งเช่นกัน

“หอนาฬิกาทับสะแก”

ตั้งอยู่ที่ชุมชนตลาดเก่าทับสะแก เป็นหอนาฬิกาเก่าแก่ แต่ปัจจุบันได้บูรณะใหม่ให้ทันยุคทันสมัย ถ้าหลับตานึกถึงในอดีตแล้ว ที่นี่คือ ย่านค้าขายที่เจริญรุ่งเรือง อีกย่านของ ประจวบฯ เป็นบ้านไม้สองชั้นเก่าแก่ยังคงยืนหยัดมาถึงทุกวันนี้ ตัวอาคารบ้านเรือนจะติดกันหลายคูหา เป็นร้านค้า ร้านโชว์ห่วย เย็บผ้า เป็นต้น

“โบสถ์ไม้ตาล”

วัดอ่างสุวรรณ หรือ วัดหนองหอย จุดเด่นคือโบสถ์ที่สร้างจากไม้ต้นตาลนั้นเอง โดยอุโบสถหลังนี้เริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี2547 นำไม้ตาลอายุไม่ต่ำกว่า70-100ปีมาสร้าง รอบๆโบสถ์มีการแกะสลัก ฉลุไม้ตาล ให้งดงามด้วยลายกนกแบบไทยๆ ด้วยฝีมืออันปรานีตของช่างไม้ ทำให้ผลงานออกมาอย่างสวยงาม ด้านในมีหลวงปู่ไทร พระพุทธรูปเก่าแก่ปางวันทา แกะสลักจากไม้ไทร กว่า200ปี เป็นที่เคารพบูชาของชาวทับสะแก นับว่าวัดแห่งนี้เป็นแลนด์มาร์คที่ต้องมาเช็คอินให้ได้ กับโบสถ์ไม้ตาลหลังเดียวในโลก

“โบสถ์เหรียญบาท วัดบ้านทุ่งเคล็ด”

โบสถ์เหรียญบาทเป็นโบสถ์ที่มีจุดเด่นคือ ให้ผู้มีจิตศรัทธานำเหรียญมาติดด้านฝาผนังขอโบสถ์ โดยใช้เหรียญคร่าวๆประมาณ 3 ล้าน 7 แสนเหรียญ มาประดับรอบๆโบสถ์ให้ดูมีความแปลกตา สวยงามต่างจากวัดอื่น แต่เท่านั้นไม่พอ ยังมีตัวอาคารภายในวัดอีกหลัง ที่ภายในนั้น ตกแต่งลวดลายที่เต็มไปด้วยสลากกินแบ่งที่ไม่ถูกรางวัลโดยทางวัดเค้าก็ได้ขอรับบริจาค แล้วนำมาแปะกับ ผนัง เพดาน ลายตรงบ้าง โค้งๆ บ้าง ไอเดียเจ๋งมากๆ เลย

“หาดแหลมกุ่ม”

หาดที่เงียบสงบอีกแห่งทางตอนใต้ของ ทับสะแก เป็นหาดที่ยาวมากจนสุดเขตทับสะแกเชื่อมไปจนถึงหาดบ้านทางสาย บ้านกรูด อ.บางสะพาน จุดเด่นของหาดนี้น่าจะเป็นส่วนพื้นดินปลายแหลมที่ยื่นไปในทะเล แล้วช่วงปลายที่ยื่นนั้นเป็นหินสีส้มแดง ไม่ใช่เม็ดทรายเหมือนหาดทั่วๆไป ทำให้หาดแหลมกุ่มแปลกกว่าหาดในระแวกนี้ทั้งหมด

“วัดอ่างทอง”

อยู่ติดกับถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ ผ่านตัวอำเภอทับสะแกมาประมาณ 10 กม. ตัววัดมีการก่อสร้างมานานแล้ว แต่ที่กำลังจะไม่เหมือนที่วัดอื่นก็คือ “พระมหาเจดีย์ศรีประจวบ” ที่กำลังก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2550 จนใกล้จะเสร็จแล้ว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา
ท่านใดขับรถผ่านก็อย่าลืมแวะ ร่วมกันบริจาคที่วัดกันได้ที่วัดอ่างทอง ไว้สร้างเสร็จถ้าแอดมีโอกาสผ่านไป จะเก็บภาพตอนเสร็จมาให้ชมกันนะ

“วัดวังยาง”

วัดนี้มีจุดเด่นตรงที่ตัวอุโบสถ์ตั้งอยู่กลางสระน้ำล้อมรอบด้วยกลีบดอกบัว โบสถ์สร้างด้วยไม้หลากหลายชนิดตามกำลังที่วัดพอสร้างได้ แต่ผลงานออกมาสวยงามมากๆ ดูโดดเด่น ใครชอบวัด ชอบสถาที่เที่ยวศาสนสถาน อย่าลืมแวะมาเก็บวัดนี้ด้วยนะ

Credit : https://prachuaptravel.com/travel-tabsakae/

]]>
https://attboutiquehotel.com/tabsakae/feed/ 0
Prachuaptown https://attboutiquehotel.com/prachuaptown/ https://attboutiquehotel.com/prachuaptown/#respond Thu, 05 Nov 2020 08:08:41 +0000 https://attboutiquehotel.com/?p=1090

ที่เที่ยว เมืองประจวบ

“ศาลหลักเมืองประจวบ”

เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เคารพบูชาแก่ชาวประจวบคีรีขันธ์ เป็นหลักชัยคู่บ้านคู่เมือง ทำให้ประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข รุ่งเรืองตลอดเวลา สร้างขึ้นในสมัยที่ ร.ต.อำนวย ไทยานนท์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นสถาปัตยกรรมสมัยลพบุรี หากขับรถเข้าเมืองมาจะอยู่สง่างามทางด้านขวามือ

“สะพานสราญวิถี”

ก่อนเคยเป็นสะพานปลา ท่าเรือประมงเก่า ภายหลังมีการทรุดโทรม จึงได้เนรมิตสะพานปลาแห่งนี้ ให้ดูสดใสสวยงามอีกครั้ง เป็นจุดเช็คอินอีกแห่งโดดเด่นอยู่กลางอ่าวประจวบ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อใหม่ว่า “สราญวิถี” หมายถึงสะพานแห่งความสุข สะพานแห่งนี้เหมาะสำหรับการชมดวงอาทิตยืขึ้นยามเช้า บรรยากาศที่เงียบสงบ และ ชมดวงจันทร์เต็มดวงโผล่จากเส้นขอบฟ้า

“เขาช่องกระจก”

เรียกว่าเป็นขุนเขาใจกลางเมืองสูง 245 เมตร ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาประจวบเลย สามารถมองเห็นได้ตั้งแต่ทางเข้า 4 แยกเมืองประจวบ ด้วยจุดเด่นของหินด้านบนที่เป็นช่องทะลุคล้ายกระจกใส และป้ายเมืองสามอ่าว ทำให้นักท่องเที่ยวนั้นอยากขึ้นไปสัมผัสด้านบนยอดเขาแห่งนี้

“วัดเขาช่องกระจก”

เดินขึ้นมาตามบันได 396 ขั้น สู่ด้าบน เราจะได้เจอกับวัดเขาช่องกระจก พระสถูปเจดีย์ รอยพระพุทธบาทจำลอง บนยอดเขา สามารถชมวิวได้ 360 องศา เห็นทั้งวิวทะเลอ่าวประจวบ อ่าวน้อย วิวเมือง และวิวภูเขาด้านตะวันตก อีกทั้งยังมีแสนซนอยู่ตลอดทางขึ้นจนถึงยอดเขา ก็ควรระมัดระวังกันด้วย จุดนี้เหมาะแก่การขึ้นมาชมดวงอาทิตย์ขึ้นและตกเป็นอย่างมาก

“อ่าวประจวบ”

อ่าวที่มีความสงบ เรียบง่ายสไตล์ประจวบ มีเกาะอยูกลางอ่าว เห็นโดดเด่นชัดเจนที่พอจะทำให้หลงรักอ่าวนี้ อีกทั้งมีเรือประมงชาวบ้านทอดสมออยู่เต็มหาดด้านใต้ มีการทำปลา ตากหมึกริมอ่าวตามวิถีชีวิตชาวประมง สามารถขับรถ หรือปั่นจักรยาน หรือ เดินเล่นริมหาดได้ตั้งแต่สะพานบางนางรมจนถึงริมรั้ว กองบิน 5

“วัดธรรมิการามวรวิหาร”

จุดเด่นๆ คืออุโบสถที่ออกแบบสีขาว สวยงามดูสะดุดตา หากมองลงมาจากเขาช่องกระจก จะได้เห็นทั่วบริเวณวัด ด้านหน้าวัดใกล้เชิงเขามีลิงน่ารักๆ อยู่เยอะมากหากไปแถวๆนี้ควรเก็บของมีค่า ของใช้ไว้ให้ให้ดีเพราะลิงประจวบซนมากๆ

“อ่าวมะนาว”

อ่าวยอดฮิตของการท่องเที่ยวเมืองประจวบมีลักษณะ โค้งเหมือนมะนาวถูกผ่าซี่ คลื่นที่เงียบสงบ หาดทรายที่กว้างยาว จึงทำให้ผู้คนอยากจะมาสัมผัส ในช่วงหน้าร้อนจะมีน้ำที่ใสสุด เหมาะแกการลงเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนบนเตียงผ้าใบ แล้วสั่งอาหารมานั่งรับประทาน หรือจะไปปิคนิก ปูเสื่อนั่งบริเวณใต้ต้นสนก็ออกจะร่มรื่นไปอีกแบบ

“เขาล้อมหมวก”

พิชิตความสูง 902 ฟุต เขาล้อมหมวก ตั้งอยู่ในกองบิน 5 ใช้เวลาเดิน ปีน ป่าย ไต่เชือก ประมาณ 45 นาที ไม่ไกลแต่คนเยอะ เพราะไม่ใช่จะขึ้นวันไหนก็ได้ ต้องรอเปิดให้ขึ้นทุกช่วงเทศกาล ในวันหยุดสามวันขึ้นไป ด้านบนสามารถชมวิวที่สวยงามจากยอดสุดได้ 360 องศาเลย เห็นตั้งแต่ อ่าวน้อย อ่าวประจวบ อ่าวมะนาว และอ่าวคลองวาฬเป้นต้น

“กองบิน 5”

นอกจากจะมีอ่าวมะนาว เขาล้อมหมวกแล้วนั้น ยังมีเครื่องบินเก่าปลดระวางจากสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้เราได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก มีห้องจัดแสดงให้ความรู้เกี่ยวประวัติศาสตร์ สมัย ญี่ปุ่นยกพลขึ้นบก ณ อ่าวประจวบฯ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย

“ค่างแว่น”

ประจวบไม่ได้มีแต่ลิงแสมแสนซนเท่านั้น ยังมีฝูงค่างแว่นที่แสนน่ารักๆ ที่เชื่องและเป็นมิตรกับผู้คนอย่างเป็นมิตรด้วยนะ สามารถให้อาหาร และชม ถ่ายภาพได้อย่างใกล้ชิด เราสามารถไปตามหาค่างแว่นน่ารักๆนี้ได้ที่ บริเวณด่านล่างเขาล้อมหมวก ใน กองบิน 5

“วัดอ่าวน้อย”

ห่างออกจากเมืองไปทางด้านเหนือประมาณ 10 กิโลเมตร มีโบสถ์ที่ทำจากไม้สักทองทั้งหลัง โอบล้อมรอบด้วยพญานาคสีแดงและสีเขียว 9 เศียร สง่างามอยู่ใกล้ทะเล อ่าวน้อยงดงามขนาดนี้หากไม่มาเยี่ยมชมและเช็คอินสักครั้งเหมือนทริปประจวบจะดูไม่ครบเครื่อง

“ถ้ำพระนอน อ่าวน้อย”

อยู่ที่วัดอ่าวน้อย แต่ต้องเดินขึ้นบันไดไปยังปากถ้ำประมาณ 15 นาที หยอดเหรียญที่ตู้เพื่อเปิดไฟ แล้วเข้าไปชม สักการะพระนอนด้านในกัน เดินลงจากปากถ้ำจะได้พบกับ พระพุทธไสยาสน์ในถ้ำพระนอน กว่า 9 เมตร และด้านในยังมีหินงอกหินย้อย ลวดลายผนังถ้ำที่สวยงาม อีกทั้งยังมีพระพุทธรูปด้านในอีกมากกว่า 30 องค์

“วัดเกาะหลัก”

เป็นสำนักสงฆ์เก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยูธยา สร้างมาราวปี พ.ศ.2300 จนมาเป็นวัดเกาะหลักและยกฐานะเป็นพระอารามหลวงในปี พ.ศ.2515 หลวงพ่อเปี่ยม จันทโชโต หรือนามสมณศักดิ์ว่า “พระครูสุเมธีวรคุณ” พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อดีตเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ท่านมีความแม่นยำในการพยากรณ์ดวงชะตา และมีความเชี่ยวชาญในการบรรจุดวงชะตาทางโหราศาสตร์ อีกทั้งยังชำนาญการรักษาโรคด้วยสมุนไพร ทำให้ประชาชนเมืองประจวบและพื้นที่ใกล้เคียงนับถือและศรัทธา หลวงพ่อเปี่ยม เป็นอย่างมาก

“ถนนคนเดินปรจวบ”

ถนนคนเดินสุดชิคริมชายหาด กว่า 500 เมตร หากมาประจวบแล้วอยากหาของอร่อยๆล่ะก็ ต้องมาลุยที่นี่เลย มีอาหารให้เลือกเยอะแยะมากมาย สดอร่อย ราคาไม่แพงด้วย เสื้อผ้า ของฝาก หรือนั่งเล่นชิลๆ ริมทะเลหรือบนสะพานสราญวิถีก็ได้ ถนนคนเดินจะเปิดตั้งแต่เวลา 16:00 – 23:00 น. ทุกวันศุกร์ และวันเสาร์ เท่านั้น

“อ่าวคลองวาฬ”

อ่าวที่เงียบสงบอีกแห่งถัดไปจากอ่าวมะนาว ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่เหมาะแก่การพักผ่อนอีกแห่งนึงของประจวบ มีที่พัก รีสอร์ท รวมถึงร้านอาหารอร่อยๆ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวเยอะแยะเลย

“ด่านสิงขร”

ประตูสู่ประเทศเมียนม่าร์ ด่านสิงขรเป็นจุดที่แคบที่สุดในประเทศ เพียง 12 กิโลเมตร ด่านสิงขรเป็นย่านการค้าระหว่างประเทศ ในเช้าทุกเสาร์จะมีแม่ค้าข้ามฝั่งมาจากพม่ามาปูแผงขายของป่า พืชพันธ์ไม้ต่างๆ รวมถึงของฝาก หลักๆก็จะเป็นกำไลข้อมือ สร้อยคอ ของตกแต่งบ้านที่ผ่านการทำมาจากฝั่งเพื่อนบ้าน

“อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ”

ตั้งอยู่ที่อ่าวหว้ากอ ในตำบลคลองวาฬ ห่างจากตัวเมือง 12 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 485 ไร่ เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีดาราศาสตร์ อวกาศ และสิ่งแวดล้อม ในทุกปีจะมีนิทรรศการ สัปดาห์วิทยาศาสตร์ ที่ หว้าก้อแห่งนี้ด้วย ครั้หนึ่ง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ได้ทรงคำนวณไว้ว่าจะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่นี่ ในวันที่ 18 สิงหาคม 2411 อีกทั้งยังเสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรสุริยุปราคา ณ แห่งนี้พร้อมพระราชโอรส พระราชธิดา ข้าราชบริพาร ตลอดจนทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าให้ชาวต่างประเทศได้มีโอกาสร่วมชมปรากฎการณ์ครั้งนี้ด้วย

“พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หว้ากอ”

เป็นศูนย์การเรียนรู้อีกแห่งที่เกี่ยวกับ สัตว์น้ำทะเลและน้ำจืด ภายในมีบูทจัดแสดงให้ความรู้มากมาย มีให้ศึกษา เด็กๆ มักจะชอบในจุดนี้ เพราะมีตู้ปลาขนาดใหญ่(BigTank)และอุโมงค์ปลา (Tunnel) สามารถเดินลอดอุโมงค์ชมปลาขนาดใหญ่มากมาย อาทิ ฉลาม กระเบน ปลาสวยงาม ม้าน้ำ เต่าทะเล พืชน้ำ เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถชมนักประดาน้ำให้อาหารสัตว์น้ำตามเวลาที่กำหนด ซึ่งทำให้เป็นที่ชื่นชอบสำหรับเด็กๆเป็นอย่างมาก

“พาราไกลดิ้ง ชมวิวเมืองสามอ่าว”

กิจกรรมน้องใหม่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจท้าทาย ชอบความสูงและความเสียว ต้องห้ามพลาดกิจกรรมนี้เลย เมื่อเราได้เทคออฟไปแล้วนั้น เราจะได้เพลิดเพลินไปกับ อ่าวขั้นกระได เห็นวิวอ่าวน้อย อ่าวประจวบ เป็นต้น ขอบอกเลยว่า ลองไปสักครัั้งสนุกและน่าตื้นเต้นเอาซ่ะมากๆ เลย

Credit : https://prachuaptravel.com/travel-prachuaptown/

]]>
https://attboutiquehotel.com/prachuaptown/feed/ 0
Kuiburi https://attboutiquehotel.com/kuiburi/ https://attboutiquehotel.com/kuiburi/#respond Thu, 05 Nov 2020 07:51:48 +0000 https://attboutiquehotel.com/?p=1076

ที่เที่ยว กุยบุรี

“อุทยานแห่งชาติกุยบุรี”

เป็นถิ่นอาศัยที่สำคัญของสัตว์ป่าหายากหลายชนิด โดยเฉพาะ ช้างป่า กระทิง วัวแดง นกและผีเสื้อนานาพันธุ์ ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีเปิดให้เข้ามาชมสัตว์ป่าตั้งแต่เวลา 14:00-17:00 น. โดยมีค่าเข้าอุทยาน 40 บาท เด็ก 20 บาท ค่ารถเข้าไปด้านในและไกด์จากน้องนักศึกษา จำนวน 800 บาท สามารถไปได้ 8-10 คน มีกล้องส่องสัตว์ให้เช่า อันละ 100 บาทสำหรับคนที่อยากชมใกล้ๆ เจ้าหน้าที่จะพาเข้าไปชมสัตว์ป่าทั้งหมด 4 จุด แต่ละจุดมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามต่างกันออกไป โอกาสพบเห็นสัตว์ป่า 95 %

“หลวงพ่อในกุฏิ”

ตั้งอยู่ที่วัดในกุฎิ ห่างจากตัวเมือง 1 กิโลเมตร ทางเข้าวัดอยู่ตรงสี่แยกกุยบุรี ฝั่งขาขึ้น กทม. หลวงพ่อในกุฏิวัดกุยบุรี เป็นเกจิอาจารย์ผู้วิเศษองค์หนึ่ง หลวงพ่อในกุฏิท่านเป็นผู้เคร่งครัดในด้านวิปัสสนากรรมฐาน จนทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าหลวงพ่อในกุฏิเป็นผู้มีวาจาสิทธ์มีวิชาอาคมแกร่งกล้า ใครขออะไรกับท่านมักไม่ผิดหวัง เป็นผู้มีเมตตาจิต ได้ช่วยเหลืออนุเคราะห์สงเคราะห์กับคนทุกเพศ ทุกวัย เป็นที่พึ่งอาศัยของคนทั้งหลาย ตลอดจนถึงได้สั่งสอนให้ประชาชนยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธศาสนา ทำให้ท่านเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของประชาชน

“จุดชมวิวเขาแดง”

ตั้งอยู่ที่บ้านเขาแดง อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ใช้เวลาเดิน 30 นาที สู่จุดชมวิว 360 องศา สามารถขึ้นมาชมดวงอาทิตย์ขึ้นและตกได้ แต่ละทิศมีวิวสวยงามแตกต่างกันออกไป บางครั้งอาจได้พบเจอเลียงผา และ ค่างแว่นเป็นต้น แนะนำควรพกสเปรย์กันยุงมาด้วย

“พระมหาเจดีย์จักรียิ่งมงคล”

ตั้งอยู่ที่ วัดวังยาว ชมความงามของจิตรกรรมฝาผนัง และกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อยู่ห่างจากถนนเพชรเกษมประมาณ 3 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่เศษ พระมหาธาตุเจดีย์มหาจักรียิ่งมงคล สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 สร้างขึ้นโดยพระครูวิริยากรโกศล (หลวงพ่อทองเบิ้ม) อินทโชโต ลักษณะของเจดีย์ เป็นเจดีย์แบบฐานตัด 8 เหลี่ยม ชั้นบนเป็นมหาธาตุเจดีย์ฐานระฆังคว่ำสีทอง ฐานยาวด้านละ 50 เมตร สูง 49 เมตร เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ สถานที่ปฏิบัติธรรม และเป็นที่ประชุมของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

“ล่องเรือเขาแดง”

หลังจากที่ไปจุดชมวิวเขาแดงมาแล้ว ใกล้ๆกันสามารถนั่งเรือชมธรรมชาติ ไปตามคลองเขาแดง ชมหินแปลกตาที่มีรูปร่างคล้ายหน้าคน จระเข้ปีนหน้าผา ชมนกนานาชนิดที่มาหากินบริเวณลำคลอง การนั่งเรือใช้เวลาไปกลับประมาณ 1 ชั่วโมง ราคา 500 บาท นั่งได้ 6 คน

“ชุมชนปากคลองบ้านเขาแดง”

เรือจะพาเราย้อนกลับมาทางปากคลอง ชมวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน ตลอดจนนั่งเรือจากลำน้ำออกไปสู่ทะเล แล้ววกกลับมายังจุดขึ้นเรือ

“วัดเขาแดง”

 ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาหินปูน ด้านหน้าเป็นคลองเขาแดง เป็นวัดเก่าแก่ อ้างอิงหลักฐานจากประกาศวิสุงคามสีมา แต่ไม่ปรากฎหลักฐานของผู้สร้างและผู้บริจาคที่ดิน ในภาพนี้เป็นอุโบสถเก่าแก่ที่ชำรุดทรุดโทรม ตั้งอยู่ท้ายด้านวัดติดกับตีนเขา ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว พระวิริยากรโกศล ได้สร้างโบสถ์หลังใหม่ ขึ้นมาทดแทน เมื่อ 6 พฤษภาคม 2530

“หาดสามพระยา”

เป็นชายหาดที่ร่มรื่นสวยงามเงียบสงบ อยู่ห่างจากที่ทำการ อุทยานเขาสามร้อยยอด ประมาณ 5 กิโลเมตร มีต้นสนร่มรื่่นเรียงรายอย่างระเบียบ เหมาะแก่การมาพักผ่อน หรือใครอยากมากางเต็นท์นอนก็ได้ เพราะในหาดสามพระยา มีร้านค้าสวัสดิการ มีห้องน้ำ ไว้อำนสยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว

“อ่างเก็บน้ำยางชุม”

เป็นแหล่งน้ำสำคัญของกุยบุรี แต่มีวิวทรรศนียภาพที่สวยงาม ด้านหลังเป็นแนวเทือกเขาตะนาวศรี มีสัตว์เลี้ยงชาวบ้านอยู่ตามริมน้ำ เป็นภาพดูสบายตา สามารถมาชมดวงอาทิตย์ตกที่สวยงามได้ ณ จุดนี้ หากต้องการมากางเต็นท์ตั้งแคมป์หรือพักที่บ้านพักของอุทยานก็สามารถมาติดต่อได้

Credit : https://prachuaptravel.com/travel-kuiburi/

]]>
https://attboutiquehotel.com/kuiburi/feed/ 0
Samroiyod https://attboutiquehotel.com/samroiyod/ https://attboutiquehotel.com/samroiyod/#respond Thu, 05 Nov 2020 07:44:08 +0000 https://attboutiquehotel.com/?p=1063

ที่เที่ยว สามร้อยยอด

“บึงบัวสามร้อยยอด”

 ตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เป็นสถานที่ศึกษาธรรมชาติ กว่า 500 ไร่ ทางเดินเป็นสะพานไม้ และมีศาลาพักเป็นจุด ตลอดทางเดินที่บัวหลายชนิดหลายสี เช่น บัวหลวง บัวเผื่อน บัวผัน บัวสาย พืชน้ำนานาพันธุ์ ต้นกก ต้นธูปฤาษี และยังมี นกนาๆชนิด ที่อาศัยและมาหากินที่บึงบัวขนาดใหญ่แห่งนี้ ภายในมีบ้านพักของอุทยานให้บริการด้วยนะ

“ล่องเรือชมบึงบัว”

หากใครมาถึงบึงบัวแล้วอยากนั่งเรือล่องเข้าไปในบึงขนาดใหญ่แห่งนี้ ทางอุทยานที่เรือนำเที่ยว ในราคา 500 บาทสามารถนั่งได้ 5-6 คน ใช้เวลาในการล่องเรือ ประมาณ 40 นาที จะได้เห็นบึงบัวโซนด้านใน วิวทิวทัศน์และบรรยากาศของที่นี่อีกแบบนึง แบบว่าเห็นเขาสามร้อยยอดสุดลูกหูลูกตา และยังพาไปชมผานกเอี้ยง รวมถึงจุดชมวิวอันไกลโพ้นของพื้นที่ชุ่มน้ำที่สวยที่สุด คือ ที่พักสงฆ์ถ้ำทอหูก

“ถ้ำพระยานคร”

อยู่ห่างจากหาดแหลมศาลาประมาณ 500 เมตร สามารถไปได้ 2 ทางคือ เช่าเรือราคาประมาณ 400 บาท/ลำ นั่งได้ 7-8 คน ใช้เวลาเดินทางอ้อมเขาประมาณ 20 นาที และเดินเท้าจากหน้าหาดไปต่ออีก 430 เมตร หรือจะเดินเท้าข้ามเขาเทียนขึ้นๆ ลงๆ มาตั้งแต่แรก ถ้าเดินจนถึงก็ปากถ้ำก็น่าจะเกือบๆ กิโล อันนี้เหนื่อยได้เหงื่อเลย ภายในถ้ำพระยานครจะมีพระที่นั่ง คูหาคฤหาสน์ เป็นพลับพลาสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นพลับพลาแบบจตุรมุข คราวเสด็จประพาสเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2433 เป็นฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าขจรจรัสวงศ์ ทรงสร้างขึ้นในกรุงเทพฯ แล้วส่งมาประกอบทีหลัง โดยให้พระยาชลยุทธโยธินเป็นนายงานก่อสร้าง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมายกช่อฟ้าด้วยพระองค์เอง อีกทั้งพระที่นั่ง คูหาคฤหาสน์ ยังเป็นตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัด ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อีกด้วย

“ถ้ำไทร”

อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 9 กม. ระยะทางจากด้านล่างลานจอดรถเดินขึ้นสู่ปากถ้ำ ประมาณ 280 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที ก็จะไปถึงด้านบนปากถ้ำไทร ด้านในจะมีหินงอกหินย้อย เป็นรูปทรงต่างๆ แวววาว ระยิบระยับ จุดที่เป็นไฮไลท์ คงจะเป็นหินที่ย้อยมาเหมือนรากของต้นไทร 2 ต้น และมีปล่องแสงลอดลงมายังในถ้ำไทร

“ถ้ำแก้ว”

อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน ไปประมาณ 15 กิโลเมตร อยู่ในบริเวณหุบเขาจันทร์ เดินจากลานจอดรถ 128 เมตร สู่ปากถ้ำ ทางลงถ้ำเป็นบันไดเหล็ก รวมถึงบางช่วงในถ้ำ ไม่มีไฟส่องสว่าง ต้องเช่าไฟฉายจากเจ้าหน้าที่ อันล่ะ 40 บาท ด้านในมีหินงอกหินย้อย ทางเดินบางช่วงอาจต้องก้มลง บางช่วงที่คับแคบ ไม่เหมาะสำหรับคนที่กลัวความมืด หรือ ที่แคบ สามารถเดินทะลุออกไปได้อีกทาง โดยไม่ต้องกลับทางเดิม มีระยะทางจากปากถ้ำทั้งหมด 200 เมตร

“โรงเจลุ่ยอิมยี่”

ตั้งอยู่ที่เชิงเขาสามร้อยยอด ก่อนถึงบึงบัวสามร้อยยอด ถ้าหากขับรถมาดูแล้ว ศาลเจ้าแห่งนี้จะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ที่โอบไว้ด้วยแนวเขาสามร้อยยอด เป็นสถาปัตยกรรมจีน นับเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ ภายในเทวสถานประดิษฐานรูปหล่อพ่อปู่สามร้อยยอด และองค์เทพเจ้าจีน สามารถแวะเวียนเข้ามาสักการะกันได้ตลอดทั้งวัน

“วัดตาลเจ็ดยอด”

เป็นวัดที่มีชื่อเสียงอีกวัด ของสามร้อยยอด จุดเด่นของวัดนี้คือ องค์รูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี ) ขนาดหน้าตักกว้าง ๑๑ เมตร สุง ๑๘ เมตร น้ำหนักรวม 50,000 กิโลกรัม หล่อจากโลหะทองเหลืองเป็นชิ้นใหญ่ 16 ชิ้น ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในขณะนี้ สร้างขี้น ตั้งแต่ พ.ศ. 2548 โดยพระมหาจำนงค์ จรณธมฺโม เจ้าอาวาสวัดตาลเจ็ดยอดรวมถึงประชาชนที่มีจิตศรัทธา ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี โดยท่านเจ้าอาวาสต้องการให้ญาติโยมได้มีสถานที่สักการะ บูชา หลวงพ่อโต โดยไม่ต้องเดินทางไกลไปที่อื่น ภายในบริเวณวัดตาลเจ็ดยอด มีศาลาปฏิบัติธรรม มีบ่อน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ที่จำลองสถานที่คล้ายกับบ่อน้ำมนต์ศักดิ์สิทธ์ วัดอินทรวิหาร มีธรรชาติความร่มรี่น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม มีบริการอาหารกลางวันโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

“หาดสามร้อยยอด”

หรือ (หาดนมสาว) เป็นหาดที่ดูเงียบสงบ ยาวกว่า 7 กิโลเมตร เหมาะสำหรับคนอยากพักผ่อนแบบเงียบๆ บางช่วงมีต้นสนดูร่มรื่น ทางหน้าหาดจะได้เห็นเกาะต่างๆ เช่น เกาะโครำ เกาะนมสาว เกาะระวิง เกาะระวาง สามารถนั่งเรือไปเที่ยวเกาะได้ มีที่พัก หรือรีสอร์ทให้เลือกหลายแห่งเลย

“ท่องเที่ยวชุมชนบ้านป่าหมาก”

หมู่บ้านเล็กๆในหุบเขาทางด้านตะวันตกของสามร้อยยอด ติดกับชายแดนไทย – พม่า มีลำธารไหลผ่าน ช่วงเช้าๆและกลางคืน อากาศดีเย็นสบาย บรรยากาศดีมาก หากโชคดีก็จะได้เจอสายหมอกพัดผ่านอย่างสวยงาม หากใครอยากมาที่นี่ สามารถตั้งแคมป์ค้างคืนได้ที่ลานกางเต็นท์ของหมู่ ทางชุมชนมีเต็นท์ให้เช่า 250 บาท ไม่รวมเครื่องนอน ถ้านำเต็นมากางเองเสียค่าบำรุงสถานที่เต็นท์เล็ก 50 บาท เต็นใหญ่ 100 ที่ลานกางเต็นท์มีห้องน้ำอำนวยความสะดวก

“ชุมชนท่องเที่ยว บ้านเกาะมอญ-เกาะไผ่”

สถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่อีกพิกัดที่คอยให้บริการล่องเรือ ชมบึงบัว แห่งทุ่งสามร้อยยอด ทางชุมชนได้มีการปรับพื้นที่และช่วยกันปลูกบัว เพื่อให้เป็นแแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน ขอบอกเลยว่า พิกัดนี้สวย วิวดี บรรยากาศดีมาก โดยต้องเหมาเรือของชุมชนไป 600 บาท นั่งไปได้ 4-6 คน ได้ไปชมบึงบัว เก(็บฝักบัวทานฟรี พาไปชมลิงเสมที่อาศัยตามธรรมชาติแห่งเทือกเขาแมว ไปชมฟอสซิล ร่องรอยการจมน้ำทะเลของฐึงแห่งนี้ และไปชม ก้อนหินหมูป่า ยืนสง่างามบนยอดเขาแมว

Credit : https://prachuaptravel.com/travel-samroiyod/

]]>
https://attboutiquehotel.com/samroiyod/feed/ 0
Pranburi https://attboutiquehotel.com/pranburi/ https://attboutiquehotel.com/pranburi/#respond Thu, 05 Nov 2020 07:25:58 +0000 https://attboutiquehotel.com/?p=1046

ที่เที่ยว ปราณบุรี

“หาดปากน้ำปราณ”

เป็นชายหาดที่ยาวประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยงามและเงียบสงบเหมาะสำหรับการพักผ่อน มีทัศนียภาพที่สวยงาม มีจุดเด่นคือต้นตาลสามพี่น้อง ที่เป็นเอกลักษณ์อยู่คู่ชายหาดเสมือนรอต้อนรับนักท่องเที่ยว หาดปากน้ำปราณบุรี เป็นถนนเลียบหาดตลอดแนวสามารถขับรถชมวิวหรือปั่นจักรยานเล่นยามเย็นได้อย่างเพลิดเพลิน

“วนอุทยานปราณบุรี”

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ มีเส้นทางให้เดินศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลนเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร มีทางเดินไม้สะดวกตลอดเส้นทาง ลัดเลาะไปตามป่าชายเลน เราจะได้ชมพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ ทั้ง โกงกาง โปรงแดง ตะบูนดำ ด้านในยังมีท่าเรือขนาดเล็กเชื่อมกับสะพานทางเดินฯ สามารถล่องเรือไปสัมผัสธรรมชาติและศึกษาระบบนิเวศของป่าชายเลนทางน้ำ ชมวิถีชีวิตชาวบ้านอาศัยอยู่ริมคลอง ราคา 400 บาท นั่งได้ 8 คน ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเท่านั้นเอง

“หาดเขากะโหลก”

ตั้งอยู่ที่ วนอุทยานท้าวโกษา เป็นชายหาดที่ทอดยาวต่อเนื่องจากหาดปราณบุรี มีหาดทรายสีขาวที่สวยงาม น้ำใสเหมาะแก่การลงเล่นน้ำ มีร้านอาหารและเตียงผ้าใบริมชายหาด ทางใต้ของหาดมีเขาเล็กๆ ลูกหนึ่งคล้ายกับกะโหลกศีรษะ ชาวบ้านจึงขนานนามเขาลูกนี้ว่า เขากะโหลก

“จุดชมวิวเขากะโหลก”

ตั้งอยู่ที่ วนอุทยานท้าวโกษา ต้องเดินเท้าจากด้านล่างของวนอุทยานขึ้นไปยังจุดชมวิวประมาณ 150 เมตร ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ทางเดินสะดวกสบาย ไม่ได้ลำบากมากนัก มีแนวเชือกกั้นทางเดินและป้ายสัญลักษณ์อย่างชัดเจน มีบางช่วงเดินผ่านและลอดลัดดลาะไปตามซอกหินในบางช่วงทำให้เกิดความตื้นเต้นของการเดินไปยังยอดเขา ขึ้นไปยังจุดชมวิวเขากะโหลก ด้านบนจะได้เห็นวิวทะเลประกอบกับแนวชายหาดแห่งนี้จากด้านบนยอดเขา

“วัดเขากะโหลก”

หรือ ” วัดสุมนาวาส ” อยู่ใกล้กับหาดเขากะโหลก พระวิหารสีทองสวยงามอยู่ติดริมถนน มียักษ์ 2 ตน ยืนเด่นสง่างามอยู่ทางด้านหน้าวิหาร ด้านในมีองค์หลวงพ่อหว่าง อุตุตโม เจ้าอาวาองค์แรกของวัดเขากะโหลกแห่งนี้ เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านระแวกนี้ ช่วงกลางคืนเปิดไฟส่องไปยังตัวอุโบสถ ทำให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น

“ถนนคนเดินปราณบุรี”

ก่อนเคยชุมชนตลาดที่มีความเก่าแก่และความสำคัญมากถึง 200 ปี ตั้งอยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟปราณบุรี ต่อมาชาวบ้านได้มีการรวมตัวจัดทำเป็น ถนนคนเดินปราณบุรี เพื่ออนุรักษ์ความเป็นตลาดดั้งเดิมย้อนยุคไว้ ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของปราณบุรี ถนนคนเดินแห่งนี้จะเปิดทุกวันเสาร์ ตั้งแต่ 16:30 – 21:30 น. มีของขายมากมาย หลากหลายสไตล์รวมถึงกินอร่อยๆ ในท้องถิ่นอีกมากมาย
ให้เราได้เลือกทานกัน

“ศาลเจ้าแม่ทับทิมทอง”

ตั้งอยู่บนยอดเขาเจ้าแม่ เป็นจุดชมวิวอีกแห่งที่สวยงามของปราณบุรี มองลงมาจะเห็นแม่น้ำปราณบุรีและหมู่บ้านปากน้ำปราณ ภายในศาลประดิษฐ์รูปปั้นเจ้าแม่เทียนโหวเซี้ยบ้อ หรือเจ้าแม่ทับทิมทอง ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นับถือของชาวปากน้ำปราณ ด้านหน้าศาลเจ้าแม่ทับทิมทองมีรูปปั้นจระเข้ขนาดใหญ่เป็นจุดเด่นที่สถานที่แห่งนี้ อีกทั้งสถานที่แห่งนี้เหมาะแก่การชมดวงอาทิตย์ขึ้นและชมดวงอาทิตย์ตกที่สวยงามได้อีกด้วย

“แกรนด์แคนย่อน ปราณบุรี”

สถานที่แปลกตา น่าค้นหา บ่อขุดดินลูกรังเก่า ที่มีน้ำขังเป็นสระน้ำสีเขียวมรกต อมฟ้า ทำให้ดูสวยงามแปลกตา เป็นอีกพิกัดแปลกใหม่ของปราณบุรี ถ้าหากใครอยากมา ให้ใช้ถนนเส้น 4020 ก่อนถึงโค้งขวามือ จะมีซอยถนนลูกรังเล็กซ้ายมือเข้าไปอีก 50 ก็ถึง แกรนด์แคนย่อนแล้ว

“จุดชมวิวเขานาห้วย”

เป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ล่าสุดอีกแห่งของปราณบุรี
สามารถขับรถขึ้นไปยังลานจอดรถได้ เป็นทางคอนกรีตสะดวกสบาย แล้วเดินเท้าไปยังจุดชมวิวอีกประมาณ 100 เมตร ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีสู่จุดชมวิว ด้านบนมีพระพุทธบาทจำลอง และพระพุทธรูปตั้งอยู่บนอาคารไม้สองชั้น
สามารถมองเห็นวิวทะเล เขาสามร้อยยอด และวิวเขาตะนาวศรีทางด้านทิศตะวันตก นับว่าเป็นจุดชมวิวที่น่าสนใจอีกแห่งของปราณบุรี

“หาดคุ้งทราย”

หาดแห่งนี้จะอยู่เลยถัดไปจากวัดเขากะโหลกไม่ไกลเป็นชายหาดที่มีแนวหลายกิโลเมตรจวบจรดถึงหาดสามร้อยยอด เป็นหาดที่ค่อนข้างเงียบสงบ อาจเนื่องด้วยจากมีแนวหินกันคลื่น จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมแก่นักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จะเป็นผู้คนในพื้นที่ที่จะมาพักผ่อนกันในวันหยุด

“วัดปราณบุรี”

ชื่อเดิมว่า วัดเมืองเก่า วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองปราณบุรีมาช้านาน เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2400
ตรงกับรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ ๔) โดยมีพระปราณบุรีศรีสงคราม(พระพิชิตชาญณรงค์ (ภู่) ) ต้นตระกูล “พิชิตกุล” )เป็นเจ้าเมืองปราณ (ผู้ว่าราชการจังหวัดคนแรก) ฝ่ายฆราวาส เป็นผู้ริเริ่มการก่อสร้างวัด
มีหลวงพ่อแสง จนฺทสาโร เป็นเจ้าอาวาส จนเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2485 ได้เปลี่ยนเป็น วัดปราณบุรี ให้ชื่อสอดคล้องกับ ชื่อเมือง ตัวอุโบสถ สร้างเมื่อ รัตนโกสินทร์ศก ๑๓๕ ปัจจุบันบูรณใหม่ และยังมี วิหารจัตุรมุขเพื่อประดิษฐาน พระพุทธปางประทานอภัย แกะสลักด้วยไม้ตะเคียนทองสูง ๙.๙๐ เมตร สร้างเมื่อ ๒๕๔๗ ถ้าใครมีเวลาเหลือแวะไหว้พระ ทำบุญเอาฤกษ์เอาชัยกันได้น๊า

“วัดเก่าเขาน้อย”

ตั้งอยู่ที่ ต.ปากน้ำปราณ ตัวสถานที่วัดนั้นตั้งอยู่บนภูเขา จึงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ทะเลและภูเขาของปราณบุรีได้อย่างงดงามอีกจุดนึง ภายในวัดยังมีวิหารพระนอนองค์สีทองประดิษฐานอยู่ด้วย โดยความยาวขององค์พระประมาณ 10 เมตรให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะขอพรกันด้วย

Credit : https://prachuaptravel.com/travel-huahin/

]]>
https://attboutiquehotel.com/pranburi/feed/ 0
Huahin https://attboutiquehotel.com/this-week-only-10-discounts-on-fridays/ https://attboutiquehotel.com/this-week-only-10-discounts-on-fridays/#respond Wed, 04 Nov 2020 03:22:35 +0000 https://attboutiquehotel.com/2020/11/04/this-week-only-10-discounts-on-fridays/

ที่เที่ยว หัวหิน

“พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ”

ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟหัวหิน พลับพลาจตุรมุขทรงไทย อายุอานามก็ร้อยกว่าปีแล้ว สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เดิมมีชื่อว่า “พลับพลาสนามจันทร์” บริเวณหน้าสถานีรถไฟยังมีหัวรถจักรรุ่นไอน้ำสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมมาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก ในการมาเที่ยวหัวหิน

“หาดหัวหิน”

เป็นชายหาดที่ได้รับความนิยมจากชาวไทยและต่างชาติเป็นอย่างมาก เป็นชายหาดอันดับต้นๆ ของหัวหินและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ผู้คนอยากมายังชายหาดแห่งนี้ หาดหัวหิน เป็นชายหาดที่มีทรายขาวนวลสะอาดตา น้ำใส เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ รวมถึงยังมีม้าบริการให้เราได้นั่งขี่เพลินๆ เลียบไปตามริมชายหาดหัวหิน เป็นไฮไลท์อีกอย่างของหาดหัวหินแห่งนี้

“อุทยานราชภักดิ์”

อุทยานที่สร้างขึ้น ภายในพื้นที่ของกองทัพบก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยใช้พื้นที่ก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 222 ไร่เศษ ด้วยความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และเพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณสมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ ได้แก่

1.พ่อขุนรามคำแหงมหาราช มหาราชแห่งกรุงสุโขทัยผู้ประดิษฐ์อักษรไทย
2.สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาราชผู้กู้เอกราชและประกาศอิสระภาพจากพม่า
3.สมเด็จพระนารายณ์มหาราช มหาราชสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
4.สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (พระเจ้าตากสินมหาราช) พระเจ้าตากผู้เกรียงไกรของแผ่นดินไทย
5.พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรีผู้ก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์
6.พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงเป็นบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทยผู้ทำนายสุริยุปราคาเต็มดวงที่หว้ากอ
7.พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (สมเด็จพระปิยมหาราช) มหาราชผู้เป็นที่รักของพสกนิกร

“วัดห้วยมงคล”

เดิมใช้ชื่อว่า “วัดห้วยคต” เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก หน้าตักกว้าง 9.9 เมตร สูง 11.5 เมตร บนฐานสูง 3 ชั้น ชั้นล่างกว้าง 70 เมตร ยาว 70 เมตร ด้วยเรื่องราวปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อทวด ทำให้เป็นที่เลื่อมใสมาเป็นเวลานาน จึงก่อเกิดการร่วมมือร่วมใจรสร้างประติมากรรมองค์จำลองหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร เททองหล่อองค์หลวงปู่ทวด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547 และพระราชทานพระราชานุญาตให้คณะกรรมการจัดสร้างอัญเชิญพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. ขึ้นประดิษฐานที่หน้าองค์รูปหล่อ

“ตลาดโต้รุ้ง”

สถานที่เดินเล่นยามค่ำคืนกลางเมืองหัวหิน เปิดทุกวัน เวลา 17:00 – 01:00 น. ตลาดโต้รุ่งมีความยาวประมาณเกือบๆ 1 กิโลเมตร มีทั้งอาหาร สตีทฟู๊ด ฟาสฟู๊ด ซีฟู๊ด ของกินต่างๆ รวมถึง เสื้อผ้า กิ๊ฟช็อปและของฝากจากหัวหิน ทำให้ยามค่ำคืนผู้มาเยือนหัวหินส่วนใหญ่จะออกมาเดินเล่น เช็คอินกันที่ ตลาดโต้รุ่งแห่งนี้

“เพลินวาน”

สถานที่เที่ยวย้อนยุคเก๋ๆ สำหรับคนรักวินเทจ ภายในมีการตกแต่งมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ร้านค้าต่างๆ จะตกแต่งไปในยุคสมัยก่อน เช่นร้านตัดผม คาเฟ่ ร้านโชว์ห่วย มีของสะสมเก่าๆ หายาก ให้เราได้ชมกัน มีสวนสนุกงานวัดเล็กๆ มีร้านของฝากต่างๆมากมาย และอีกอย่างนึงยังมีห้องพักสไตล์เรโท อีกด้วยนะ

“วัดถ้ำเขาเต่า”

อยู่ห่างออกไปจากตัวเมือง 13 กิโลเมตร สร้างให้มีลักษณะคล้ายถ้ำ มีรูปปั้นพระโพธิสัตว์ หลวงปู่ทวด พระสังกัจจายน์ หลวงพ่อโต เป็นต้น บริเวณเชิงเขามีรูปปั้นเต่าหันหน้าออกสู่ทะเล และมีศาลาเล็กๆ อยูใกล้ ๆ จากเชิงเขานี้มีทางเดินขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อชมวิวและเป็นที่ประดิษสถานพระพุทธศากยชินมหาราช องค์พระใหญ่บนเขาเต่า

“Cicada market”

หรือที่เรียกกันว่าตลาดจั้กจั้น ตั้งอยู่บริเวณสวนศรี ริมถนนทางเข้าเขาตะเกียบ เป็นตลาดชิคชิค เดินเล่นสบายๆ ตั้งแต่ยามเย็น ส่วนใหญ่เป็นงานสินค้าแฮนด์เมด สิ่งประดิษฐ์ งานศิลปะต่างๆ และเสื้อผ้าแฟชั่น บางวันมีการแสดงเปิดหมวกต่างๆ บรรยากาศชิวมาก ร่มรื่นสบายตา ภายในมีศูนย์อาหาร เครื่องดื่ม ให้นั่งทานเล่นกันได้ด้วย

“Tamarind Market Chic & Chill”

ตลาดชิคๆ ชิลๆ เน้นไปทางอาหาร ของกินอร่อยๆ
ซ่ะเป็นส่วนใหญ่ มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย หลากหลายสไตล์ นับว่าเป็นแหล่งของกินยามค่ำคืนอีกแห่งของหัวหิน ตลาดแทมมารีนอยู่ทางไปเขาตะเกียบถัดจาดตลาดจั้กจั้นซ้ายมือไป 50 เมตร เปิด พฤหัสบดี- อาทิตย์ 17:00 – 23:00 น.

“จุดชมวิวเขาหินเหล็กไฟ”

หรือที่เรียกกันว่าเขาเรดาร์ อยู่ห่างจากตัวเมืองหัวหินประมาณ 3 กิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 162 เมตร สามารถขับรถขึ้นมาถึงยอดเขา มีขนาดพื้นที่ 352 ไร่ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นตัวเมืองหัวหิน ได้กว้าง 180 องศา เห็นวิวทิวทัศน์ด้านตะวันออกฝั่งทะเล ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) หันพระพักตร์ มองลงไปยังตัวเมืองหัวหินที่พระองค์ท่านทรงโปรด เมื่อครั้งเสด็จมาประทับ และได้ทรงนำความเจริญต่างๆ มาสู่หัวหิน ชาวหัวหินจึงได้ร่วมกันสร้างไว้เพื่อเป็นที่รำลึกนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

“โกดังหัวหิน”

หรือที่เรียกกันว่าเขาเรดาร์ อยู่ห่างจากตัวเมืองหัวหินประมาณ 3 กิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 162 เมตร สามารถขับรถขึ้นมาถึงยอดเขา มีขนาดพื้นที่ 352 ไร่ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นตัวเมืองหัวหิน ได้กว้าง 180 องศา เห็นวิวทิวทัศน์ด้านตะวันออกฝั่งทะเล ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) หันพระพักตร์ มองลงไปยังตัวเมืองหัวหินที่พระองค์ท่านทรงโปรด เมื่อครั้งเสด็จมาประทับ และได้ทรงนำความเจริญต่างๆ มาสู่หัวหิน ชาวหัวหินจึงได้ร่วมกันสร้างไว้เพื่อเป็นที่รำลึกนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

“น้ำตกป่าละอู”

น้ำตกที่มีชื่อเสียงในหัวหิน เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจแบบธรรมชาติ แม้จะห่างไกลออกไปจากตัวเมืองถึง 60 กิโลเมตร แต่ก็ต้องมาให้เห็นกับตา น้ำตกป่าละอูมีทั้งหมด 15 ชั้น แต่สามารถไปได้ถึงชั้น 5 สามารถลงเล่นน้ำได้ด้วย ส่วนชั้น 6-13 ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางไปเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเดินป่า ตั้งแคมป์ ในช่วงหน้าร้อนจะมีผีเสื้อหลากหลายชนิดมาอยู่ที่น้ำตกป่าละอูเยอะมาก

“อ่างเก็บน้ำเขาเต่า”

พระราชดำริเมื่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบัน เสด็จเยือนประชาชนในเขตหัวหิน ทรงเห็นความลำบากของประชาชนในหมู่บ้านเขาเต่า ที่ขาดแคลนแหล่งน้ำอุปโภค บริโภค ราษฎรได้รวมตัวกันน้อมเกล้าถวายที่ดินแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 300 ไร่ จึงมีพระราชดำริพร้อมมอบทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนาน 60000 บาท ให้กรมชลประทานก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเขาเต่า ซึ่งนับเป็นโครงการตามพระราชดำริ แห่งแรกของกรมชลประทานด้วยเช่นกัน

“หาดเขาตะเกียบ”

(ฝั่งเหนือ) หาดเขาตะเกียบอยู่ห่างจากตัวหัวหินไม่ไกล เป็นอีกหาดที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ ชายหาดหัวหิน ที่อยู่ติดต่อกัน ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนอย่างไม่ขาดสาย บรรยากาศค่อนข้างคึกครื้น เพราะริมหาดนั้นสามารถลงเล่นน้ำทะเลได้

“วัดเขาตะเกียบ”

ใกล้ๆหาดเขาตะเกียบนั้น ยังมีวัดเขาตะเกียบ ทางด้านขวาของหาด มีพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร ยืนสง่างามอยู่ริมผาข้างเขาตะเกียบ และด้านบนยอดสุดยังประดิษฐานพระเจดีย์ทันตธาตุหรือ พระเขี้ยวแก้ว รวมถึง เจ้าแม่กวนอิมพันมือ สามารถเดินไปสักการะได้ อีกทั้งจุดนี้ยังสามารถมองเห็นวิวรอบๆได้อีกด้วย

“หาดเขาตะเกียบ”

(ฝั่งใต้) ในส่วนของหาดนี้ อยู่ถัดมาจากหาดเขาตะเกียบฝั่งเหนือ ถูกกั้นกลางไว้ด้วยเขาตะเกียบ ระยะยาวกว่า 5 กิโลเมตรต่อเนื่องไปถึงหาดสวนสนประดิพัทธ์ เป็นชายหาดที่เงียบสงบกว่าเขาตะเกียบอีกฝั่ง มีร้านค้า ร้านอาหารบริการแก่นักท่องเที่ยว

“หมู่บ้านศิลปิน หัวหิน”

เป็นสถานที่รวบรวมงานศิลปะมากมาย หลากหลายแขนง ภายใต้การดูแลของอ. ทวี เกศางาม ปัจจุบันมีศิลปินในกลุ่มร่วม 19 คน สร้างสรรค์ผลงานศิลปะในรูปแบบเฉพาะตัวของแต่ละคน มีทั้ง งานวาด งานปั้น งานประดิษฐ์แฮนด์แมดต่างๆ เป็นต้น มีห้องจัดแสดงหลากหลายห้อง หลากหลายโซน เปิดทุกวัน อังคาร – วันอาทิตย์ 10:00-17:00 น. ปิดทุกวันจันทร์

“หาดทรายน้อย”

ห่างจากตัวเมืองหัวหินประมาณ 15 กม. เป็นหาดเล็กๆ ยาวประมาณ 500 เมตร อยู่ถัดจากชายหาดเขาเต่า เป็นชายหาดที่สะอาด เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมานอนพักผ่อน อาบแดด ฝั่งซ้ายเป็นโขดหินเรียบง่ายอยู่ริมหาดดูสบายตา ด้านฝั่งขวาหาด ติดกับภูเขาเล็กๆ มีร้านอาหารเตียงผ้าใบให้บริการ

“ตลาดฉัตรศิลา”

ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดโต้รุ่งหัวหิน เป็นตลาดเล็กๆ เข้าไปตามซอยระหว่างกลางตลาดโต้รุ่ง ลองสังเกตทางเข้ากันดีๆ ภายในก็เน้นของฝาก ของแฮนด์เมดเป็นส่วนใหญ่ มีของขายพอสมควร แต่ไม่ค่อยครึกครื้นมากเท่าไหร่นัก ตลาดฉัตรศิลา เปิดทุกวัน 17:00 – 23:00 น.

“สวนสนประดิพัทธ์”

เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงอีกแห่ง ริมหาดมีต้นสนเก่าแก่ขนาดใหญ่เรียงรายอยู่ริมหาด คอยให้ความร่มรื่นแก่นักท่องเที่ยว มีความคึกคักไม่แพ้หาดอื่นๆ แถมยังเหมาะกับการลงเล่นน้ำทะเลอีกด้วย ภายในนั้นยังมีบ้านพักให้บริการสำหรับผู้ที่อยากมาพักที่นี่ด้วย

“ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม”

เป็นตลาดน้ำที่ห่างออกไปจากตัวหัวหินประมาณ 15 กิโลเมตร เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10:00-23:00 น. มีร้านค้ากว่า 200 ร้าน เนื้อที่กว่า 100 ไร่ มีทั้งของฝาก ของกิน มีมุมถ่ายรูปเก๋มากมาย มีจุดนั่งเล่นนั่งพักหลายจุด หรือจะนั่งรถราง วนรอบๆตลาดน้ำแบบชิลๆ ก็ได้ด้วย

“สะพานปลา หัวหิน”

พิกัดชิลๆ บนสะพานปลาหัวหิน ตลาดของกิน เล็กๆ ชิคๆ กับบรรยากาศ
ทะเล ชายหาด มีโต๊ะนั่งไว้ให้บริการฟรีๆ สามารถนั่งทานอาหารและชมวิวเมืองหัวหินได้อย่างเพลิดเพลิน
เปิด ศุกร์-อาทิตย์ 16:30 – 21:30 น.

Credit : https://prachuaptravel.com/travel-huahin/

]]>
https://attboutiquehotel.com/this-week-only-10-discounts-on-fridays/feed/ 0